ประวัติ Matthew Shepard หนุ่มน้อยผู้สังเวยความเกลียด
เรื่องราวของเด็กหนุ่ม Matthew Shepard เริ่มต้นจากการที่เลือกเกิดไม่ได้ แต่ต้องพบเจอกับสภาพสังคมที่ไม่ได้ยอมรับในความเป็นตัวของเขามากนัก ทำให้มีการเหยียดหยาม กดขี่ต่างๆ นาๆ อย่างมากมาย ทั้งสังคมรอบข้างหรือแม้กระทั่งคนในครอบครัว
เชื่อว่าพ่อแม่หลายๆ ครอบครัวอาจจะไม่ได้รับรู้ถึงความรู้สึกของลูกเลย ว่ามีความรู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น มีสร้างผลกระทบต่อจิตใจมากแค่ไหน เพียงเพราะสิ่งที่เค้าเป็นนั้นไม่สามารถเลือกเกิดได้และไม่สามารถรักษาได้เท่านั้น เรื่องราวที่เป็นโศกนาฏกรรมที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์ของอเมริกัน เริ่มต้นตั้งแต่ยุค 1960 กลุ่มเกย์ต่างออกมาเรียกร้องความถูกต้องในฐานะที่ตนเองก็เป็นมนุษย์ไม่แตกต่างจากเพศชายและหญิง แต่กลับต้องมาโดนกดขี่สารพัด จึงได้รวมกลุ่มเพื่อออกมานจักตั้งองค์กรเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ความยุติธรรมที่สมควรได้รับ แต่นี้ก็เป็นเพียงด้านหนึ่งเท่านั้น เพราะนอกจากการได้รับการกดขี่เหยียดหยามแล้ว ยังมีเรื่องความโหดร้ายต่างๆ ที่เกย์ต่างได้รับ เช่น การกระทำรุนแรง ทำร้ายต่างๆ ทั้งในด้านของวาจาและจิตใจ ความเกลียดชังของกลุ่มคนที่มองเหมือนกับเกย์เป็นตัวประหลาด แปลก และแตกต่างไปจากคนอื่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดมากในอเมริกันและเป็นความจริงที่มิอาจปฏิเสธในสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ได้เลย
เรื่องโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นจริงในปี 1998 ของครอบครัวหนึ่งที่ต้องสูญเสียลูกชายวัย 21 ไปอย่างไม่หวนกลับ เพียงเพราะลูกชายของเขาเป็น “เกย์” โดยการโดนทารุณจนเสียชีวิต เรื่องาราวนี้ถือเป็นข่าวดังที่สร้างความสลดเสียใจให้กลับกลุ่มเกย์ทั่วทุกมุมโลกอย่างมาก ทั้งยังทำให้คู่รักต่างเพศต้องอกสั่นขวัญแขวน เพราะกังวลในคิดถึงลูกของตนเอง ซึ่งเรื่องนี้จะมีสักกี่ครอบครัวที่ยอมรับลูกที่เป็นแบบนี้ได้
เรื่องราวของเด็กหนุ่มเคราะห์ร้าย Matthew Shepard เด็กหนุ่มที่มีรูปร่างและน่าตาเป็นเด็กฉลาด รูปร่างเล็ก ที่ก็แสดงความเป็นผู้ชายเหมือนเด็กผู้ชายปกติทั่วๆ ไป ไม่กระตุ้งกระติ้งหรือแสดงพฤติกรรมที่คล้ายเด็กผู้หญิงออกมา ทั้งยัง ไม่เคยสร้างความเดือดร้อน เขาเป็นลูกรักของพ่อและแม่ ที่มีความชอบในการออกไปตกปลากับพ่อของเขาเหมือนๆ กับชาวไวโอมิ่งทั่วไป แม้ว่าครอบครัวนี้จะดูอบอุ่นและรักกันดี แต่เขาก็ไม่เคยที่จะกล้าเปิดอกบอกความจริงกับพ่อและแม่ถึงลักษณะทางเพศของเขา ได้แต่นั่งคิดสับสนอย่างเดียวดายและเก็บความลับนั่นไว้แต่เพียงผู้เดียว เขาเคยพยายามที่จะคบหาดูใจกับเด็กผู้หญิงหลายครั้ง แต่ทุกๆ ครั้งก็ไปกันไม่รอด ซึ่งแม่ของเขาก็แอบสงสัยลูกชายคนโตคนนี้อยู่ไม่น้อย แต่ก็เงียบเก็บเอาไว้ และไม่ได้พยายามที่จะหาความจริง เพียงแต่รอดูและคิดว่าเมื่อโตขึ้นอาจจะหายได้เอง ซึ่งสำหรับ Matt แล้ว เรื่องนี้จัดเป็นความลับที่เงียบสนิทมากของคนในครอบครัว ไม่เคยมีใครหยิบยกเรื่องนี้ออกมาพูดสักครั้ง
จนวันหนึ่งเมื่อ Matt ได้ออกไปสัมผัสโลกกว้างภายนอก เนื่องจากพ่อต้องออกเดินทางเพื่อไปทำงานที่ซาอุดีอาระเบีย จึงจำเป็นที่จะต้องให้ Matt ได้เรียนอยู่ในโรงเรียนประจำในสวิตเซอร์แลนด์ ที่นั่นทำให้เขาได้เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น จึงมีโอกาสได้พบรักกับเพื่อนร่วมหอพัก แต่ความรักในครั้งนี้ก็ไม่ได้สมหวัง เมื่อทั้ง 2 คน พากันไปเที่ยวที่โมรอคโค โดยที่ทั้งคู่ก็ต่างไปปกปิดความรักระหว่างเพศเดียวกันของเขา Matt หยอกล้อแฟนหนุ่มด้วยความสนุกสนาน โดยที่ไม่รู้เลยว่าความหวานของเขาได้เป็นเป้าหมายกับชายสามคน ที่เห็นการหยอกล้อของ Matt ทำให้เขาโดนบังคับและลากไปข่มขื่น หลังจากสำเร็จความใคร่ของชายทั้งสามแล้วก็โดนทิ้ง ณ ที่ร้างแห่งหนึ่ง เรื่องราวนี้สร้างความเสียใจอย่างมาก ทำให้ Matt ไม่อาจที่จะปกปิดความลับของตนเองได้อีกต่อไป จึงเดินทางไปหามารดาพร้อมน้ำตาที่นองหน้า พร้อมยอมรับกับผู้เป็นมารดาว่า “ผมเป็นเกย์” ทางด้านแม่ก็รับฟังด้วยความเข้าอกเข้าใจด้วยสายตาอาทร พร้อมบอกลูกว่า “แม่รู้แล้ว”
Matt ได้เกินทางกลับมาบ้านที่ไวโอมิ่ง หลังจากที่สำเร็จการศึกษาระดับ High School แล้วมาต่อมหาวิทยาลับปีแรกที่นี่ ซึ่งในช่วงนี้โลกของเขาได้เปลี่ยนไป ในรั่วของมหาวิทยาลัยมีการจัดศูนย์สำหรับนักศึกษาที่เป็นเกย์และเลสเบี้ยน เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้เพศที่สามได้พบปะกัน ทำให้ Matt มีเพื่อนเยอะขึ้น ได้แสดงความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น แต่ความเหงา และความต้องการที่จะเป็นอิสระ การได้รับการยอมรับ โดยไม่มีคำว่าเพศกั้นนั้นมันมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขานั้นต้องคอยกินยาเพื่อระงับความเครียดอยู่เป็นประจำ ในที่สุดเขาจึงตัดสินใจพักการเรียน และได้ขอพ่อแม่ย้ายไปอยู่ที่เดนเวอร์ เมืองที่มีชุมชยเกย์มากที่สุดแห่งหนึ่ง แต่แล้วในทุกๆ ที่ที่เขาได้ไป ไม่ว่าจะเป็นที่พัก หรือแม้กระทั่งร้านขายยา เขาก็สัมผัสได้ถึงความเกลียดชังของคนรอบข้าง ที่ไม่ชอบเกย์ ทำให้เขาอยู่ที่นี้ได้ไม่นาน จึงตัดสินใจกลับบ้านอีกครั้ง
และแล้วการเดินทางครั้งสุดท้ายของเขาก็มาถึง โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าชีวิตของเขาได้ถูกลิขิตให้มาถึงโค้งสุดท้ายของการมีลมหายใจแล้ว เมื่อเขาได้เดินทางเพื่อไปเที่ยวที่บาร์แห่งหนึ่ง และได้พบกับชายหนุ่ม 2 คน ที่มีอายุอยู่ในรุ่นราวเดียวกันมาหลอกว่าพวกเขาก้เป็นเกย์เหมือนกัน และอาสาที่จะพา Matt กลับบ้าน แต่เส้นทางที่ไปนั้นกลับไม่ใช่ทางกกลับบ้านของ Matt เป็นเพียงทุ่งนา ที่ไม่มีผู้คนและเงียบสงัด อารอน เริ่มทำการทุบตี Matt และทั้งสองก็ลากเขาไปผูกไว้กับรั่วของทุ่ง หลังจากนั้น อารอน ก็ทำการทุบหน้าของ Matt อย่างไม่หยุดหย่อนด้วยด้ามปืนของเขา ถึงแม้ว่า Matt จะพยายามร้องขอชีวิต ความเมตตามากขนาดไหนก็ตาม ก็ไม่อาจละล้างความเลียดชังของผู้ที่รังเกียจเกย์ลงไปได้ จนกระทั่ง Matt ไม่ไหวอีกต่อไป ทั้ง 2 คน ได้ขโมย Credit Card และข้าวของส่วนตัวของ Matt ทั้งยังคิดแผนร้ายที่จะเข้าปล้นบ้านของ matt อีกด้วย จากนั้นพวกเขาก็ได้ทิ้ง Matt ไว้อยู่ในที่แห่งนี้ลำพัง ทั้งๆ ที่ยังมีลมหายใจอยู่ แต่ด้วยพื้นที่นี้เงียบนัก ผู้คนสัญจรน้อย ทำให้กว่าจะมีผู้คนพบเห็นก็ใช้เวลานานยี่สิบกว่าชั่วโมง ด้วยท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นจัดจับขั้นหัวใจ ผู้คนที่ขับรถผ่านไป – มา ก็ต่างไม่ได้สนใจ Matt ที่โดนมัดขณะที่เจ็บหนักปางตาย เพราะต่างก็คิดว่าเป็นหุ่นไล่กา แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ได้รับความช่วยเหลือในที่สุด
เขาได้ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ด้วยอาการโคม่าและมีอาการบาดเจ็บบริเวณที่ศรีษะอย่างรุนแรง และแน่นอนว่าภาพสุดท้ายที่เขาได้เห็น ก็คือภาพทุ่งนา เพราะว่าเขาไม่มีโอกาสที่จะได้ลืมตาดูโลกได้อีกแล้ว โดย Matt ได้เสียชีวิตในวันที่ 12 ตุลาคม 1998
และนี่คือโฉมหน้าของชายทั้งสอง Aaron McKinney และ Russell Henderson ผู้ที่ลงมือทำร้าย Matthew Shepard จนถึงแก่ชีวิต
หลังจากเรื่องราวโหดร้ายนี่เกิดขึ้น ชายทั้งสองได้ถูกจับตัวเพื่อลงโทษ โดยศาลได้ทำการพิจารณาคดี แม้จะมีความขัดแย่งกัยของพ่อและแม่ของ Matt ในการเรียกร้องให้ศาลลงโทษ ซึ่งทางแม่ที่เริ่มทำใจได้ จึงคิดว่าไม่อยากที่จะให้ทุกอย่างเลวร้ายยิ่งขึ้น แต่ทางพ่อก็เดินหน้าเรียกร้องความยุติธรรมให้กับลูกชายอย่างถึงที่สุด ทำให้ศาลมีแนวโน้มที่จะตัดสินประหารชีวิต Aaron McKinney แต่แล้วท้ายที่สุด ความโหดร้ายที่เกิดขึ้นก้ไม่ได้จบด้วยความโหดร้ายเช่นเดียวกัน เมื่อพ่อของ Matt ได้กล่าวให้อภัยผู้ที่กระทำผิด ทำให้เด็กหนุ่มที่เกียจเกย์ได้ลดหย่อนโทษจากการประหารชีวิตเหลือเพียงการจำคุกตลอดชีวิตแทน
วันที่ที่สำคัญ
วันที่ 6 ตุลาคม 1998 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงพบ Matt บริเวณทุ่งนา ด้วยสภาพบาดเจ็บสาหัส
วันที่ 12 ตุลาคม 1998 Matthew Shepard ได้เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาล โดยที่ทีมแพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตเขาไว้ได้
วันที่ 9 มีนาคม 2002 ช่องเคเบิ้ลยักษ์ใหญ่ ได้เสนอเรื่อราวสารคดี The Laramie Project (Document Drama) เกี่ยวกับชีวิตของ Matthew Shepard
วันที่ 16 มีนาคม 2002 ช่องสถานีเครือข่าย NBC ได้หยิบยกเรื่อง The Matthew Shepard Story ออกอากาศกับทางช่อง
ไม่เท่านี้ เรื่องราวของ Matthew Shepard ยังมีการจัดทำละครเวทีเกี่ยวกับชีวิตของเขาอีกด้วย